เคล็ดลับดูแลตัวเองหลังดูดไขมันเหนียง

การดูแลตัวเองหลังจากดูดไขมันเหนียงมานั้น ในระยะแรก จะเป็นระยะเวลาที่สำคัญมาก เพราะในระยะแรก ๆ นี้ ผลลัพธ์จะเห็นผลมากน้อยแค่ไหน ก็จะขึ้นอยู่ที่การดูแลรักษาของตนเอง ด้วยการปฏิบัติตามข้อแนะนำจากแพทย์ผู้ให้การรักษาอย่างเคร่งครัด เพื่อทำให้เกิดการยุบบวมได้เร็ว และเกิดประสิทธิภาพหลังไปดูดไขมันเหนียงให้ได้มากที่สุด ดังนั้นเรามาดูกันว่าเลยว่าคำแนะนำที่จะทำให้ผลลัพธ์ของการดูดไขมันเหนียงอย่างมีประสิทธิภาพนั้น ต้องทำอย่างไรบ้าง

1. การประคบร้อนและเย็น
หลังจากไปดูดไขมันเหนียงมาแล้วจะเกิดอาการบวมมากใน 1-4 วันแรก จึงควรใช้การประคบเย็นบริเวณใต้คางในวันที่ 1 และวันที่ 2 โดยทำ 2 – 3 ครั้งต่อวัน นานครั้งละ 20-30 นาที เพราะความเย็นจะทำให้เส้นเลือดหดตัว ทำให้เลือดออกน้อยลง และช่วยลดบวม หลังจากนั้นในวันที่ 3 และ 4 ควรประคบร้อนบริเวณใต้คางในอุณหภูมิที่เหมาะสม คือไม่เกิน 45 องศาเซลเซียส โดยทำ 2 – 3 ครั้งต่อวัน นานครั้งละ 15 – 20 นาที  เพื่อลดอาการปวด และผ่อนคลายกล้ามเนื้อ 

2. ใช้ผ้ารัดหน้า
ควรใช้ผ้ารัดหน้า หรือผ้ารัดบริเวณใต้คางต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง เพื่อช่วยทำให้รูปหน้ากระชับ และที่สำคัญ คือช่วยขับน้ำออกมาจากเหนียงได้มากขึ้น จึงไม่มีอาการน้ำคั่งใต้ผิวหนังที่จะทำให้เกิดเป็นก้อนไตแข็ง ๆ เมื่อไม่มีน้ำสะสมที่ใต้ชั้นผิวหนัง และอาการบวมก็จะน้อยลงไปเช่นกัน หลังจากผ่าน 24 ชั่วโมงไปแล้วนั้น ควรใช้ผ้ารัดหน้าบริเวณใต้คางอย่างต่อเนื่อง ทุกวันเป็นเวลา 1 เดือน อย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง จะทำให้เห็นผลลัพธ์ ช่วยให้หน้าเร็ว กระชับมากขึ้น

3. การนอน
ควรจัดตำแหน่งในการนอนที่ถูกต้อง คือนอนให้ศีรษะอยู่ในระดับสูงกว่าระดับหัวใจ ด้วยการใช้หมอนรองศีรษะ 2 ใบ เป็นเวลา 2 วัน เพราะอาการบวมนั้นอยู่สูงกว่าหัวใจ ดังนั้นควรทำให้น้ำไหลไปที่หัวใจ เพื่อยับยั้งการรั่วไหลของสารน้ำให้ออกจากเส้นเลือดให้เร็วที่สุด ก็จะช่วยลดอาการบวม ทำให้เลือด และน้ำในร่างกายไหลเวียนได้ดีขึ้น

4. รับประทานยาตามแพทย์สั่ง
แพทย์จะให้คำแนะนำที่ต้องปฏิบัติตาม พร้อมกับให้ยาฆ่าเชื้อ ยาแก้อักเสบ ยาแก้ปวด ตลอดจนยาลดบวมให้เรากลับไปทานที่กลับบ้าน ด้วยปริมาณที่เหมาะสม และวัน เวลา ตามที่แพทย์กำหนด เพราะหากมีอาการจากการดูดเหนียงมาแล้ว ก็สามารถทานยาที่แพทย์ให้ไปได้ ทั้งยังช่วยอาการแทรกซ้อน และช่วยลดบวมได้เร็วมากขึ้นด้วย

5.งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และยา พร้อมอาหารเสริมบางชนิด 
ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่จะไปกระตุ้นการทำงานของร่างกาย รวมถึงกลุ่มของยาแอสไพริน (Aspirin) ยาแก้ปวด เช่น Ibuprofen Diclofenac ฮอร์โมน วิตามิน อาหารเสริม น้ำมันตับปลา แปะก๊วย สมุนไพรต่าง ๆ หรือยา และอาหารเสริมที่จะส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด เป็นเวลา 1 สัปดาห์ เพราะจะทำให้ร่างกายฟื้นตัวช้า ไม่ช่วยลดอาการบวม ทั้งยังทำให้แผลหายช้าอีกด้วย แต่หากทานยาที่ยับยั้งการแข็งตัวของเลือด เช่น warfarin ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง

6. หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสเค็ม และอาหารทะเล
ในอาหารรสเค็ม ทั้งของหมัก ของดอง และอาหารทะเลจะมีโซเดียมที่ทำให้เกิดอาการบวมน้ำ เป็นเวลา 1 สัปดาห์ เมื่อเรามีอาการบวม เพราะน้ำเกลือที่ใส่เข้าไปทำให้เกิดการอักเสบ แล้วมารับประทานอาหารที่มีโซเดียมเข้าไปอีก ร่างกายก็จะยิ่งบวมมากขึ้น ทั้งยังทำให้เกิดอาการคันบริเวณแผลได้ที่ไปดูดเนียงมาอีกด้วย

7. งดออกกำลังกายทุกชนิด 1 สัปดาห์
งดการออกกำลังกายทุกชนิด พร้อมกับหลีกเลี่ยงการยกของหนัก หรือทำกิจกรรมที่ไปกระทบกระเทือน เช่น การวิ่ง การกระโดด การยกเวท หรือการว่ายน้ำ เป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์ เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อที่บาดเจ็บจากการไปดูดไขมันเกิดการฉีดขาดของแผล หรือเกิดการอักเสบขึ้นมาได้

8. ตรวจติดตามอาการตามแพทย์นัด
เพื่อให้การดูดไขมันเหนียงมีประสิทธิภาพ ควรเข้ารับการตรวจติดตามอาการตามแพทย์นัดทุกครั้ง เพราะจะเป็นการประเมินว่าหลังจากเข้ารับการรักษาไปแล้วนั้น มีการเป็นไปตามแผน หรือเกิดผลข้างเคียงใด ๆ หรือไม่ เพระหากเกิดผลข้างเคืองแล้วนั้น แพทย์จะสามารถแก้ไขได้ทัน

อย่างไรก็ตามก่อนการรับการรักษา ควรศึกษาข้อมูลให้เข้าใจ ปรึกษาแพทย์เพื่อสอบถาม และรับข้อมูลที่จำเป็นก่อนการผ่าตัดนะคะ ทั้งนี้ผลลัพธ์ขึ้นอยู่สภาพผิวของแต่ละบุคคล สำหรับสาวๆที่กำลังมองหาคลินิกดูดไขมันที่หน้า เราขอแนะนำ อิสสวีร์คลินิก คลินิกศัลยกรรมจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่ผ่านการดูดไขมันมามากกว่า 3,000 เคส สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมหรือเลือกชมรีวิวดูดไขมันก่อนการตัดสินใจได้เลยค่ะ