ข้อแตกต่างระหว่างดูดไขมันเหนียงกับการผ่าตัดเหนียง

การผ่าตัดเพื่อเปลี่ยนแปลงรูปหน้านั้นไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร และมีมาก่อนที่เราจะรู้จักการดูดไขมันเสียอีก แต่อาจจะไม่ได้รับการพูดถึงมากเท่าใดนัก จนกระทั่งมีคนให้ความสนใจกับการดูดไขมันเหนียงมากขึ้น ก็เลยส่งผลให้การผ่าตัดเหนียงแบบถาวรได้รับความสนใจตามไปด้วย

บางคนไม่เคยรู้มาก่อนว่าบริเวณเหนียงของเราสามารถเลือกวิธีการรักษาได้หลากหลาย แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าแต่ละวิธีต่างกันอย่างไร ในวันนี้เราจึงจะมาอธิบายทั้งการดูดไขมันเหนียงและการผ่าตัดให้เข้าใจ พร้อมเลือกใช้บริการได้ตรงกับความต้องการมากยิ่งขึ้น

กระบวนการรักษาของการผ่าตัดและดูดไขมันเหนียง

    แน่นอนว่าความยุ่งยากในการรักษาด้วยวิธีการผ่าตัดนั้นมีมากกว่า เพราะจะมีการออกแบบโครงหน้าบริเวณใต้คางทั้งหมด ไล่ตั้งแต่ปลายคางไปจนถึงช่วงคอ นอกจากผ่าตัดเอาไขมันส่วนเกินออกแล้ว ยังต้องมีการเย็บล็อคกล้ามเนื้อ และดูแลในเรื่องการยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยด้วย

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดจึงมีรายละเอียดมากกว่าการเตรียมตัวเพื่อดูดไขมันเหนียงหลายเท่า ซึ่งการดูดไขมันจะมีเป้าหมายเพียงแค่เอาไขมันส่วนเกินออกไปเท่านั้น ความต่างที่เห็นได้ชัดก็คือรอยแผลที่ได้จะเล็กกว่า ความบอบช้ำของร่างกายน้อยกว่า และระยะการฟื้นตัวก็สั้นกว่าด้วย 

ผลลัพธ์ที่ได้จากการผ่าตัดและดูดไขมันเหนียง

    การรักษาทั้ง 2 แบบ จะช่วยลดไขมันสะสมใต้คางได้อย่างรวดเร็ว และยังช่วยปรับให้รูปหน้าคมชัดขึ้นด้วย แต่การผ่าตัดเอาเหนียงออกจะให้ผลลัพธ์แบบถาวร คือผ่าแล้วก็หมดความกังวลไปได้เลย มันจะไม่มีทางกลับมามีไขมันสะสมได้อีก ขณะที่การดูดไขมันเหนียงยังมีโอกาสเกิดไขมันใต้คางได้อยู่ ถ้าไม่มีการควบคุมอาหารและดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม แม้ว่าเปอร์เซ็นต์การกลับมาของไขมันจะน้อยกว่าบริเวณอื่นของร่างกาย เช่น ต้นขา ต้นแขน หน้าท้อง เป็นต้น

แต่ก็ไม่สามารถนับการดูดไขมันเหนียงเป็นการรักษาที่ให้ผลลัพธ์แบบถาวรได้ อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างนี้ก็ไม่ได้สรุปว่าวิธีไหนดีกว่า เพราะมันจะเหมาะสมกับเคสการรักษาที่แตกต่างกันไป